อรัญและโจน ยูแบงค์ ผู้ก่อตั้ง TCF ทำหน้าที่เป็นมิชชันนารีให้กับ Global Ministries of the Christian Church (สาวกของพระคริสต์) ในประเทศไทยเป็นเวลา 39 ปี แม้จะเกษียณอายุจากคณะกรรมการมิชชันแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังคงรับใช้คริสตจักรในประเทศไทยในฐานะอาสาสมัคร พวกเขารับใช้ในประเทศไทยมากว่า 64 ปี
โจนเติบโตที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส และอรัญเติบโตที่เมืองฮิลส์โบโร รัฐเท็กซัส หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอแอนด์เอ็ม สาขาวิศวกรรมธรณีวิทยา อรัญรับราชการทหารในสงครามเกาหลีในตำแหน่งร้อยเอกในกองทัพวิศวกร เขาพบกับโจนครั้งแรกเมื่อเธอร้องเพลงในคณะละคร USO ให้กับคณะที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชา หลังสงคราม อรัญทำงานเป็นนักธรณีวิทยาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส และเมืองอิราน รัฐเท็กซัส
โจนยังคงทำงานด้านดนตรีและการแสดงที่ฮอลลีวูด ลอนดอน และบรอดเวย์ ซึ่งเธอได้รับรางวัล Theatre World Award ในฐานะหนึ่งในสิบบุคคลที่น่าจับตามองที่สุดแห่งฤดูกาลบรอดเวย์ปี 1957-1958 หกปีหลังสงคราม โจนและอรัญได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่อรัญรู้สึกว่าถูกเรียกให้ออกจากธุรกิจน้ำมันเพื่อไปศึกษาต่อในสาขาวิชามิชชันนารีที่โรงเรียนไบรท์ ดิวินิตี มหาวิทยาลัยเท็กซัสคริสเตียน ต่อมา อรัญสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเทววิทยาศักดิ์สิทธิ์จากมหาวิทยาลัยเยล และโจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเทววิทยาศึกษาจากโรงเรียนเทววิทยาเพอร์กินส์ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นเมธอดิสต์ (SMU)
พวกเขาเดินทางไปประเทศไทยในปี พ.ศ. 2504 หลังจากเรียนภาษาแล้ว พวกเขาใช้เวลาแปดปีในการก่อสร้างคริสตจักรและพัฒนาชนบทในหมู่ชาวไทยและลาวโซ่งในจังหวัดนครปฐม ภาคกลางของประเทศไทย ในช่วงฤดูแล้ง โจนได้เริ่มต้นงานหัตถกรรมในหมู่ชาวลาวโซ่ง อรัญได้เดินทางเผยแพร่ศาสนาด้วยช้างไปยังชนเผ่ากะเหรี่ยงลัทธิเทเลโค ซึ่งตั้งอยู่บนพรมแดนไทย-พม่า
พวกเขารับใช้เป็นเวลา 37 ปี ณ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย อรัญสอนพระคัมภีร์ใหม่และการเผยแพร่ศาสนาเป็นเวลา 11 ปี ในสองปีนั้น เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาปรัชญา-ศาสนา และภาควิชาเทววิทยาบัณฑิต โจนสอนขับร้องในแผนกดนตรีของมหาวิทยาลัย เป็นผู้นำคณะนักร้องประสานเสียงเซมินารี และจัดคอนเสิร์ตการกุศลมากมาย รวมถึงการแสดงเพื่อพระราชวงศ์ไทย
ในปี พ.ศ. 2524 อรัญได้ก่อตั้งสถาบันการสื่อสารคริสเตียน (CCI) และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเป็นเวลา 14 ปี โจนเขียนบทละครและเพลง รวมถึงฝึกอบรมนักร้อง นักแสดง และผู้กำกับ CCI มุ่งมั่นที่จะใช้ศิลปะทุกแขนงที่เป็นไปได้ ทั้งสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม เพื่อสื่อสารพระกิตติคุณในรูปแบบที่คนไทยเข้าใจง่าย และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชีวิตทางสังคมและครอบครัว CCI ยังคงนำนักเรียนประมาณ 2,500 คนมาสู่พระคริสต์ในแต่ละปี รวมถึงการแสดงละครพื้นบ้านเพื่อการประกาศข่าวประเสริฐในหมู่บ้านประมาณ 25 แห่งทุกปี ครอบครัวยูแบงก์ยังคงช่วยเหลือในการระดมทุนสำหรับงานของ CCI
อรัญและโจนยังคงรับใช้ที่คริสตจักรในหมู่บ้านคนไทยไทย ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่ใกล้เชียงใหม่ และเผยแพร่ศาสนาในหมู่ชาวกะเหรี่ยง ไทย ว้า ปะโอ และลาวโซ่ง พวกเขายังคงทำงานในโครงการพันธกิจทั้งหมดของมูลนิธิคริสเตียนไทยในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
มูลนิธิปันรักได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย ให้เป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายสัญลักษณ์ของมูลนิธิปันรัก คือ “นกพิราบ” ซึ่งใช้ร่วมกับมูลนิธิไทยคริสเตียน สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมเดียวกันที่ทั้งสององค์กรยึดมั่น คือ การแบ่งปันความรักของพระเจ้าสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562
มูลนิธิปันรักได้จัดงานพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่:ในวันเดียวกันนั้น ยังได้มีการจัดประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างคณะกรรมการของมูลนิธิปันรักและมูลนิธิไทยคริสเตียน เพื่อสานต่อความร่วมมือในการดำเนินพันธกิจในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
